แบบฝึกหัด
บทที่ 8 การใช้สารสนเทศตามกฎหมายและจริยธรรม กลุ่มที่เรียน
4
รายวิชา การจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวิตประจำวัน รหัสวิชา
0026 008
ชื่อ –สกุล นายธีรดนย์
พลค้อ 2PD
รหัส
56010710067
คำชี้แจง จงพิจารณากรณีศึกษานี้
1) “นาย A ทำการเขียนโปรแกรมขึ้นมาโปรแกรมหนึ่งเพื่อทดลองโจมตีการทำงานของคอมพิวเตอร์
สามารถใช้งานได้ โดยทำการระบุ IP-Address โปรแกรมนี้สร้างขึ้นมาเพื่อทดลองในงานวิจัย
นาย B ที่ เป็นเพื่อนสนิทของนาย A ได้นำโปรแกรมนี้ไปทดลองใช้แกล้งนางสาว
C เมื่อนางสาว C ทราบเข้าก็เลยนำโปรแกรมนี้ไปใช้และส่งต่อให้เพื่อนๆ
ที่รู้จักได้ทดลอง” การกระทำอย่างนี้ ผิดจริยธรรม หรือผิดกฎหมาย ใดๆ หรือไม่
หากไม่ผิดเพราะเหตุใด และหากผิด ผิดในแง่ไหน จงอธิบาย
ตอบ เป็นการกระทำที่ผิด
เพราะโปรแกรมนี้ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้ในการทดลองวิจัยเท่านั้น
ไม่ได้มีการเผยแพร่ให้ใช้งานจริง ขณะเดียวกันคนที่นำไปใช้คือนาย B ซึ่งไม่ได้รับการเห็นชอบของนาย A
ผู้พัฒนา โดยนำไปแกล้งนางสาว C ความผิดนี้
ถือเป็นการขโมยทรัพย์สินทางปัญญาและการนำโปรแกรมในการทดลองไปใช้จริง
ต่อมานางสาว C ก็ถือว่ามีความผิด
ที่เผยแพร่โปรแกรมทดลองนี้ต่อไปอีก เป็นการกระจายโปรแกรมออกไปอีก
ซึ่งในทางจริยธรรมแล้ว นาย B เป็นคนผิดที่เริ่มนำโปรแกรมไปใช้ก่อน
นางสาว C รู้เท่าไม่ถึงการณ์จึงเผยแพร่โปรแกรมออกนั่นเอง
ทำให้ผิดจริยธรรมเพราะการสร้างโปรแกรมขึ้นมาแล้วใช้แกล้งคนอื่นโดยไม่เกิดประโยชน์และทำให้ผู้อื่นเกิดความเสียหายก่อกวนระบบถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและผิดจริยธรรม
2) “นาย J ได้ทำการสร้างโฮมเพจ
เพื่อบอกว่าโลกแบนโดยมีหลักฐาน อ้างอิงจากตำราต่างๆ อีกทั้ง รูปประกอบ
เป็นการทำเพื่อความสนุกสนาน ไม่ได้ใช้ในการอ้างอิงทางวิชาการใดๆ เด็กชาย K เป็นนักเรียน
ในระดับประถมปลายที่ทำรายงานส่งครูเป็นการบ้านภาคฤดูร้อนโดยใช้ข้อมูลจากโฮมเพจของนาย
J” การ กระทำอย่างนี้ ผิดจริยธรรม หรือผิดกฎหมายใดๆ หรือไม่
หากไม่ผิดเพราะเหตุใด และหากผิด ผิดในแง่ไหน จงอธิบาย
ตอบ การกระทำของนาย J ผิดจริยธรรมตรงที่ทำข้อมูลเท็จหลอกลวงผู้อื่น
เป็นการกระทำที่ขาดการยั้งคิด ทำโดยคิดถึงแต่ความสนุกสนานของตนไม่นึกถึงผลที่ตามมา
ซึ่งทำให้ส่งผลกระทบต่อเด็กชาย K ที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์และไม่ได้มีการวิเคราะห์สารที่ได้รับมาก่อน
ทำให้ทำงานส่งครูไปแบบผิดๆ การกระทำนี้จึงผิดทั้งสองคน โดยนาย J ที่ทำโดยไม่ยั้งคิด สร้างความเดือนร้อนให้ผู้อื่น เห็นแก่ตัว ส่วนเด็กชาย K
นั้นก็ผิดที่ไม่ได้วิเคราะห์สารที่ได้รับหรือค้นคว้าหาข้อมูลให้ดี
จึงถือว่าเด็กชาย K ทำงานโดยสะเพร่าขาดความรอบคอบและไม่รู้จักใช้วิจารณญาณหรือความรู้รอบตัวให้ดีพอส่งผลให้ตนเดือดร้อนทำงานผิดไปส่งครูนั่นเอง เพราะหากเด็กชาย K หาข้อมูลจากเว็บไซต์หรือเอกสารอื่นๆเพิ่มเติมก็จะส่งผลให้เกิดข้อแตกต่างและรู้จักสืบค้นหาความข้อเท็จจริงได้ในที่สุด